เลือกตั้ง 2566 : นโยบายพรรคเพื่อไทย “ชูบริหารเศรษฐกิจ” ตีจุดอ่อนรัฐบาล “บิ๊กตู่”


โดย PPTV Online

เผยแพร่




“พรรคเพื่อไทย” พรรคคู่แข่งหลัก ชูเรื่องความเป็นมืออาชีพการบริหารเศรษฐกิจเป็นจุดแข็ง และยังชู “นายเศรษฐา ทวีสิน” ผู้บริหารบริษัทเอกชน ขึ้นเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกฯ ในเลือกตั้ง 2566

เพราะถูกตั้งคำถามต่อเนื่องถึงการบริหารจัดการเศรษฐกิจซึ่งกลายเป็นจุดอ่อนสำคัญ ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ซึ่งเป็นผู้นำที่มาจาก ทหาร ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ “พรรคเพื่อไทย” พรรคคู่แข่งหลัก จะชูเรื่องความเป็นมืออาชีพการบริหารเศรษฐกิจเป็นจุดแข็ง และยังชู “นายเศรษฐา ทวีสิน” ผู้บริหารบริษัทเอกชน ขึ้นเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคด้วย เทียบให้เห็นจะจะกันไปเลยว่า การบริหารเศรษฐกิจ มันต้องใช้ “มืออาชีพ”

คอนเทนต์แนะนำ
เปิดประวัติ "เศรษฐา ทวีสิน" เจ้าพ่ออสังหาหมื่นล้าน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30
เปิดขั้นตอนเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 30
โหวตนายก : เช็กรายชื่อ 750 ส.ส.-ส.ว. มีสิทธิโหวตนายกฯ

นโยบายพรรคเพื่อไทยเลือกตั้ง2566

เพื่อให้ไปถึงจุดนั้น นโยบายที่เปิดมาชุดแรกของพรรคเพื่อไทย จึงเน้น “การสร้างรายได้” เป็นหลัก ในคอนเซ็ปต์ “เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส” ตามมอตโต้ “คิดใหญ่ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” พีพีทีวีสรุปรวม นโยบาย 13 ข้อของพรรคเพื่อไทย ดังนี้

คอนเทนต์แนะนำ
เลือกตั้ง2566 : รวมนโยบายพรรคการเมือง เปิดอาวุธสำคัญก่อนศึกเลือกตั้ง
เลือกตั้ง 2566 “ประชาธิปัตย์” เปิด 16 นโยบาย ดันอากาศสะอาด กรุงเทพฯ ชั้นใน
เลือกตั้ง 2566 : พรรครวมไทยสร้างชาติ ดัน 13 นโยบาย ออกคลิปรัวผลงาน “บิ๊กตู่”

 

  • นโยบายเศรษฐกิจมหภาค

พรรคเพื่อไทย จะทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ GDP ของประเทศ เติบโตเฉลี่ยอย่างต่ำ ปีละ 5% ,เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 600 บาทต่อวัน ภายในปี 2570 ,คนจบปริญญาตรี รวมถึง คนทำงานข้าราชการ ต้องได้เงินเดือน เริ่มต้น 25,000 บาท นอกจากนี้จะมีการสร้างเขตธุรกิจใหม่ (New Business Zone) นำร่อง 4 พื้นที่ได้แก่ กรุงเทพ เชียงใหม่ ขอนแก่น และหาดใหญ่

 

  • นโยบายสร้างรายได้เกษตรกร

มุ่งเพิ่มรายได้ขึ้นเป็น 3 เท่า กล่าวคือ ให้มีรายได้ 30,000 บาท ต่อไร่ ต่อปี และให้มีการพักหนี้เกษตรกร ทั้งต้นและดอก 3 ปี ส่วนพืชเกษตรหลัก ที่พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญ ในการเพิ่มผลผลิต จะมี ข้าว, ยางพารา, มันสำปะหลัง, ลำไย, โดย ข้าวโพด และ ถั่วเหลือง เน้นผลิตลดการนำเข้าปีละ 3 แสนกว่าล้านบาทต่อปี,ส่งเสริมการเลี้ยงโค จากความต้องการปีละ 4 ล้านตัว และยังมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น

 

  • นโยบายบริหารจัดการน้ำ

พรรคเพื่อไทยประกาศ ต้อง “ไม่ท่วม ไม่แล้ง” และประชาชนต้องมีน้ำดื่ม น้ำใช้ตลอดปี โดยการเพิ่มพื้นที่ชลประทานเป็น 50 ล้านไร่ ภายในปี 2570,สร้างทางระบายน้ำลงสู่ทะเล,ปรับปรุงสิ่งกีดขวางทางน้ำ ฯลฯ

 

  • นโยบายคมนาคม

พรรคเพื่อไทย ชู “รถไฟฟ้า กทม.” 20 บาทตลอดสาย และจะให้มีการติดแอร์ให้รถไฟชั้น 3 ทุกขบวน นอกจากนี้ จะยกระดับรถไฟโดยสารทั่วประเทศให้สามารถเดินทางแบบไปกลับได้ , สร้างความเชื่อมโยงการขนส่งสินค้า เช่น จากลาวเข้าสู่ท่าเรือแหลมฉบัง และสนามบินสุวรรณภูมิ,เชื่อมโยงโครงข่าวรถไฟความเร็วสูงทั่วประเทศ เพิ่มทั้งการค้า และการท่องเที่ยว

 

  • นโยบายสาธารณสุข

พรรคเพื่อไทย เน้น บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทั่วไทย, ระดมฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกฟรีให้เด็กหญิงอายุตั้งแต่ 9-11 ปี  และผู้หญิงที่ยังไม่เคยรับเชื้อ HPV  ลดอัตราการเกิดมะเร็งปากมดลูก ที่สำคัญจะมีการส่งเสริมให้มีสถานชีวาภิบาล ดูแลผู้ป่วยติดเตียง ใช้งบประมาณ สปสช.

 

  • นโยบายการท่องเที่ยว

เน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวด้านการแพทย์ และสุขภาพ แบบ “Wellness Destination” ของเอเชีย และวางจุดยืนให้ไทยเป็น “Festival Hub of Asia” เช่น เทศกาลสงกรานต์เดือนเมษายน เทศกาลลอยกระทงเดือนพฤศจิกายน เทศกาลมวยไทย เป็นต้น และยังจะมุ่งให้ไทยเป็น Regional transport hub เชื่อมต่อสายการบินให้สายการบินจากทั่วโลกมาต่อเครื่องที่ไทย , รองรับนักท่องเที่ยว120 ล้านคนและปริมาณการขนส่งสินค้า cargo จำนวน 3 ล้านตันภายในปี 2570

 

  • นโยบายซอฟท์พาวเวอร์

จะส่งเสริม 1 ครอบครัว 1 ซอฟท์พาวเวอร์ ในทักษะ ด้านการทำอาหาร ร้องเพลง ออกแบบ ศิลปะ กีฬา เพื่อสร้างแรงงานทักษะสูง 20 ล้านคน ที่มีรายได้อย่างน้อย 200,000 บาทต่อปี ส่วนนี้จะมีการสร้างงาน 20 ล้านตำแหน่งรองรับ และยังจะสนับสนุนทุกอุตสาหกรรมซอฟท์พาวเวอร์ ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด

 

  • นโยบายการศึกษา

มีโครงการ “ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านขั้นตอน Learn to Earn” เด็กสามารถเข้าสู่การเรียนรู้ได้ทุกช่วงวัย โอนหน่วยกิตที่สะสมไว้หางานได้ทุกช่วงของชีวิตและยังมีโครงการ “Free tablet for all” 1 นักเรียน 1 แท็บเล็ต และ โครงการ 1 ครู 1 แท็บเล็ต,โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน (ODOS)และให้มีศูนย์การเรียนรู้แบบ TCDC และ TK Park ให้ครบทุกจังหวัด นอกจากนี้ นอกจากอาหารกลางวันฟรีแล้ว จะมีการเพิ่มงบอาหารกลางวันและให้บริการรับส่งนักเรียนฟรี

 

  • นโยบายรัฐบาลดิจิทัลเพื่อประชาชน

เน้นใช้ระบบ Blockchain สร้างความโปร่งใสให้รัฐบาล ทุกอย่างตรวจสอบได้ ลดการคอรัปชั่น

 

  • นโยบายแก้รัฐธรรมนูญ

พรรคเพื่อไทยจะ จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน โดยคงรูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนและผ่านขั้นตอนการออกเสียงลงประชามติโดยประชาชน และยังตะลุยปฏิรูปกระบวนการต่างๆ ทั้งกระบวนการยุติธรรม,องค์กรอิสระ,กองทัพ ให้เป็นทหารมืออาชีพ ป้องกันการก้าวก่ายแทรกแซงการเมือง ตลอดจนยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ให้สมัครโดยสมัครใจ

 

  • นโยบายด้านยาเสพติด

เน้น “ปราบปรามผู้ผลิตและผู้ขาย” ซึ่งจะทำไปพร้อมๆกับ การเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดน เพื่อทำลายแหล่งผลิตถาวร และ “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” บำบัด ลดการกลับไปใช้ยาเสพติด

 

  • นโยบายปราบอาชญากรรมไซเบอร์

โดยเฉพาะการหลอกลวง ขโมยเงินจากบัญชีธนาคาร โดยจะวางระบบป้องกันภัยไซเบอร์อย่างมีประสิทธิภาพ ธนาคารส่งข้อมูลกรณีกลโกงอาชญากรไซเบอร์ให้ทันการณ์

 

  • นโยบายจัดทำกรรมสิทธิ์ที่ดิน

จะมีการเร่งรัด “การพิสูจน์สิทธิ์ เพื่อให้ได้มาซึ่งโฉนด อย่างถูกต้องและเป็นธรรม”ด้วยการใช้หลักฐานภาพถ่ายจากดาวเทียม และ/หรือหลักฐานอื่นซึ่งเป็นที่ยอมรับของผู้เกี่ยวข้อง และจะนำที่ดินของรัฐจำนวนมาก ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ มาจัดให้เป็นที่ดินทำกินของราษฏร

 

นี่เป็นนโยบายที่พรรคเพื่อไทยประกาศผ่านหน้าเว็บไซต์พรรค ขณะที่งานเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 400 เขตในวันนี้ (17 มี.ค.66) พรรคเพื่อไทยยังประกาศนโยบายเพิ่ม ทั้ง การจะไปสำรวจครอบครัวที่มีรายได้น้อยกว่า 2 หมื่นบาทต่อเดือน เพื่อเข้าไปช่วยเหลือทันที โดยนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยยังได้พูดถึง การนำธุรกิจไม่เสียภาษีเข้าระบบ เพื่อให้เก็บภาษีได้ 3 แสนล้านบาท , การแจกเหรียญดิจิทัลให้คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป นำไปใช้จ่าย ในร้านค้ารัศมี 4 กิโลเมตรจากบ้าน กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน อีกด้วย

นอกจากนี้ ยังต้องจับตาดูหลังยุบสภา ที่พรรคเพื่อไทยบอกว่า จะมีนโยบายชุดใหญ่ ออกมาเพิ่มเติม

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP การเมือง
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ