“ตูน บอดี้สแลม” วิ่งไม้แรก “ก้าวคนละก้าว” ช่วยเหลือรพ.ทั่วประเทศ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หลังจากที่นักร้องหนุ่ม “ตูน-อาทิวราห์ คงมาลัย” หรือ “ตูน บอดี้สแลม” ได้เริ่มโครงการ “ก้าวคนละก้าว” ที่เพื่อระดมทุนช่วยเหลือโรงพยาบาลที่ขาดแคลนทั่วประเทศ โดยครั้งแรกวิ่งจากกรุงเทพมหานคร – บางสะพาน ในปี 2559

เริ่มแล้ว! “ตูน บอดี้สแลม” วิ่งการกุศลมอบอุปกรณ์การแพทย์ กทม.-บางสะพาน 10 วัน 400 กิโลฯ (คลิป)

จากนั้นในปี 2560 ได้มีการดำเนินโครงการอีกครั้ง ด้วยการเริ่มวิ่งจาก อ.เบตง จ.ยะลา ไปจบ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อระดมทุนช่วยเหลือโรงพยาบาลที่ขาดแคลนทั่วประเทศไปแล้วเมื่อปี 2560 ซึ่งยอดบริจาคทะลุเป้ากว่าหนึ่งพันล้านบาท

มอบเงิน 1,300 ล้านบาท ให้ 11 รพ. “ตูน” ขอบคุณประชาชนใส่ใจสุขภาพ

ล่าสุดนักร้องคนดัง ก็เดินหน้าลุยกับโครงการก้าวคนละก้าวต่อ กับการจัดตั้ง “มูลนิธิก้าวคนละก้าว” และผุดกิจกรรม “วิ่งการกุศล 5 ภาค” เพื่อหาเงินช่วยโรงพยาบาลที่ขาดแคลนเพิ่มเติม  โดยครั้งนี้เจ้าตัวจะวิ่งเป็นไม้แรก และขอส่งต่อแรงบันดาลใจแก่ผู้ที่ต้องการร่วมทำความดี

 “จากสิ่งที่เราเป็นจากตัวตนนักร้องากตัวตนี่เราเป็นนักร้องที่เราเป็นแล้ววันหนึ่งสามารถที่จะขยับมาทำประโยชน์ ถ้าสิ่งที่เราเป็นแบบนี้นักร้อง ถ้ามันเป็นประโยชน์กับคนอื่นได้ อย่างสองสามครั้งที่ผ่านมาเรามีความสุข เรามีความรู้สึกว่าอยากทำมันต่อ เท่าที่แรงเรามี ทำยังไงกับวิธีการที่มันจะสร้างแรงบันดาลใจให้ด้วย นอกจาการบริจาคเงินซึ่งเราก็จะทำให้มันควบคู่กันไป”

พอเป็นมูลนิธิเราอยากให้มีบทบาทยังไง

“ก็อยากให้มันมีค่อนข้างหลายๆมิติ เราอยากให้มีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ต่อเนื่องแต่ว่าสุดท้ายแล้วมันก็ต้องทำในแบบของเรา บ้างที่เราอยู่ตรงนี้ งานหลักของเรา อาชีพของเรานักร้อง เราคิดว่าเราออกมาทำในวันที่เรามีแรง เรามีแรงบันดาลใจ มีวิธีการที่จะสร้างประโยชน์ได้เราจะออกมาทำ เราก็จะไม่ใช้ว่าต้องออกมาทำ เพราะมันจะไม่สนุก แล้วมันอาจจะเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้องเราก็เลยคิดว่าพอเป็นมูลนิธิแล้ว เราก็ต้องใช้หลักคิดเดิมของเราอยู่ เพราะเรามีความสุขและสร้างแรงบันดาลใจ”

เป้าหมายหลักของมูลนิธิคืออะไร

"สุดท้ายแล้วภาพฝันของผมก็คือ เห็นคนไทยทุกคนสุขภาพดี เห็นคนไทยทุกคนดูแลตัวเอง โดยการออกกำลังกายที่ตัวเองชอบ ไม่ต้องวิ่งอย่างเดียวก็ได้ ไปตีแบดหรือไปออกกำลังกายกับครอบครัวไปตีเทนนิส ว่ายน้ำ หลายๆคนมีกิจกรรมที่ตัวเองชอบ ดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม ด้วยความสุข ดูแลโภชนาการที่ดี แล้วพอทุกคนมีสุขภาพที่ดี ทุกคนมีความสุขก็สามารถที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองรับผิดชอบได้ดีขึ้นเช่นเดียวกัน ทุกคนสามารถรับผิดชอบงานที่ตัวเองรับผิดชอบได้ดีขึ้น เมื่อทุกคนมีสุขภาพที่ดี ทุกคนไม่ต้องออกสตางค์ค่ายาค่าหมอเก็บไว้ มีเงินมากขึ้นได้ มีความสุขมากขึ้นได้ เมื่อทุกคนดุแลตัวเองอย่างดีแบบนี้ ดูแลหน่วยเล็กของตัวเองได้ดีแบบนี้ หน่วยเล็กมันก็จะประกอบกายเป็นหน่วยใหญ่ๆที่มีคุณภาพที่ดีขึ้น อาจจะเป็นประเทศๆหนึ่งที่มีคุณภาพที่ดีขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน จากการดูแลหน่วยเล็กๆอันนี้คือความฝันอันสูงสุดของผม จากสิ่งที่เราทำมา จากสิ่งที่เราประมวลผลได้เราอยากจะได้อะไร”

มีหลักเกณฑ์ในการช่วยเหลือยังไง

“หลักเกณฑ์คือทยอยครับ เราก็เป็นองค์กรเล็กๆ เราก็เป็นกลุ่มคนเล็กๆ เราก็จะพยายามในแบบของเราที่เราทำได้ เราไม่ได้ลิขิตภาพใหญ่ตั้งแต่แรกแล้วที่บางสะพาน เราไม่ได้คิดหรอกว่าจะเกิดเงินบริจาคเท่าไหร่ เราแค่ทำมันด้วยวิธีการของเรา สื่อสารมันด้วยวิธีการของเรา แล้วสุดท้ายแล้วหลายๆคนเห็นด้วยและออกมาช่วยกัน มันก็เกิดเป็นภาพใหญ่ให้เห็น เช่นเดียวกันอย่างในครั้งนี้เราก็เริ่มต้นเล็กๆเราก็ไม่ได้สัญญากับโรงพยาบาทว่าเราจะเอาเงินบริจากมามอบให้ได้เท่าไหร่ เราไม่รู้หรอกเราแค่ทำมันแบบเต็มที่ ทำมันด้วยวิธีการของเราอย่างเต็มที่บอกข่าวสารกับคนไทยใจดีทุกคน”

โรงพยาบาลที่เราขอความช่วยเหลือมามันเยอะแค่ไหน

“จริงๆน่าจะหลายสิบโรง จริงๆไม่ได้ลิสว่าทั้งหมดทั้งมวลเท่าไหร่ เราใช่คำว่าค่อยเป็นค่อยไป”

จะเริ่มก้าวต่อไปของ “พี่ตูน”

“มิถุนายนครับ ในปีนี้ ในปี 2562 และ 2563 ต่อไปเราคิดว่าจะชวนคนออกมาวิ่งทุกภาคเลย 5 ภาคเริ่มจากอีสาน ไปใต้ ไปเหนือ ตะวันออกแล้ว จบที่ภาคกลางก็ชวนดารานักร้องในพื้นที่ ที่เคยมาช่วยโครงการก้าวอยู่แล้วออกไปช่วยวิ่งผลัดพี่ตูนจะไม่วิ่งคนเดียวแล้ว พี่ตูนจะไม่เหงาแล้ว พี่ตูนจะวิ่งแค่สิบกี่โลแล้วส่งต่อไม้พลัดให้กับคนที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจได้ต่อไป ให้มันเกิดภาพของทุกๆคนที่ใส่ใจดูแลตัวเองมากกว่าภาพของพี่ตูน หมดยุคไปแล้ว เป็นภาพของคุณยายคนนึง เป็นภาพของเด็กน้อยคนนึงที่อ้วนๆแต่ออกมาวิ่งอยากจะลดพุงหรืออะไรก็ตามมันต้องเกิดภาพเหล่านั้น”

จะมี “พี่ตูน” เป็นไม้แรก

“อะไรอย่างนั้นๆ ผมจะเป็นไม้แรกแล้วส่งต่อแรงบันดาลใจ แล้วส่งต่อให้กับทุกคนได้ด้วยตัวเอง”

ภาคอีสานภาคแรกมองไว้กี่โรงพยาบาล

“ที่ลงไปพื้นที่แล้วก็ไปสำรวจก็น่าจะประมาณ 7 โรงพยาบาลในอีสานตอนบน ก็จะเป็นโรงพยาบาลระดับชุมชนบ้าง โรงพยาบาลระดับอำเภอก็มีก็ เป็นไซย์ที่แตกต่างกัน”

อย่างใครที่อยากที่อยากมาร่วมต้องทำยังไงบ้าง

“จริงๆแล้วอยากจะมาร่วมใช่ไหมครับ แบ่งเป็นสองส่วน ถ้าอยากมาร่วมกิจกรรม เดี๋ยวรอว่าเราอัพเดทกันว่าจะเกิดกิจกรรมในเดือนมิถุนายน เป็นสุดสัปดาห์ไหนเราจะจัดสองวันเสาร์อาทิตย์ก็จะวิ่งจากจังหวัดไหนแล้วเข้าเส้นชัยไปไหน แต่ในวันที่สองเป็นวันอาทิตย์ เราอยากจะชวนทุกคนมาร่วมวิ่งสิบกี่โลเมตรหรือมินิมาราธอนที่มากที่สุด เท่าที่จะมากได้ให้เป็นสถิติในบันทึกไทย ก็กิจกรรมก็คร่าวๆจะเกิดขึ้นแบบนี้ แล้วก็ส่วนวันที่เราจะประกาศในเฟสบุ๊คก้าวคนละก้าว แต่ว่าอีกอันหนึ่งที่ทุกคนสามารถร่วมได้เลยคือ พอวางไมค์แล้วไปออกกำลังกาย วางกล้องแล้วกินบุพเฟ่ต์ได้แต่ต้องไปออกกำลังกายด้วย ต้องไปออกกำลังกาย ต้องไปดูแลตัวเองในแบบที่มีความสุข ซึ่งไม่ยาก ต้องหาจุดจูงใจ ซึ่งผมว่าการออกกำลังกายมันทำประโยชน์มากกว่าเรื่องร่างกาย มันช่วยเรื่องจิตใจมันถูกพิสูจน์มาแล้วโดยผมเอง ผมออกกำลังกายที่ไรผมมีความสุข อะดรีนาลีนหลั่งในสมอง มันทำให้เราโล่งขึ้น คิดงานได้ดีขึ้นอะไรก็ตาม เชื่อผมลองดูครับ แล้วทุกคนจะติดใจ อันนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าร่วมได้เลย คือการดูแลตัวเองอย่างถูกต้องและเหมาะสม”

เรื่องเงินมีคนอยากร่วมเยอะมาก ตรงนี้เขาสามารถช่วยส่งมาได้ยังไงบ้าง

“เรื่องเงินบริจาค เดี๋ยวพอเราเป็นมูลนิธิอย่างสมบูรณ์แบบ แล้วเราจะประกาศในช่วงเดือนเมษายนว่าเงินบริจากจะถูกส่งไปที่บัญชีไหน ซี่งก็จะเข้าไปในโรงพยาบาล 7 โรงพยาบาลที่เราจะช่วยเหลือในตอนแรก ซึ่งตรงนี้ต้องรอให้มันลงตัวก่อน แล้วเราจะประกาศในช่วงเมษายนอีกที่”

ครั้งนี้ตั้งเป้าไว้ไหม

“จริงๆเหมือนเดิมเลย เราอยากใช้คอนเซ็ปรวมกันเหมือนเดิม เราไม่ได้อยากได้เงินบริจาคเยอะๆจากคนน้อยๆ สิ่งที่เราอยากได้เหมือนเดิมแล้วถูกพิสูจน์มาแล้ว มันเวิคร์ก็คือเราช่วยกันด้วยเงินจำนวนเล็กๆสิบบาท ยี่สิบบาท ตลอดทาง ครั้งที่แล้วที่ผมวิ่งจากเบตงถึงแม่สาย แล้วก็เป็นแบบนี้เก็บสิบบาท ยี่สิบบาท ร้อยหนึ่งบ้าง ล้านหนึ่งบ้าง อะไรแบบนี้จนสุดท้าย จากเศษเล็กเศษน้อยเราได้พันสี่ร้อยกว่าล้านให้กับ 11 โรงพยาบาล ซึ่งตอนนี้เกิดภาพเครื่องไม้เครื่องมือโรงพยาบาลศูนย์ต่างๆที่ไปช่วย ซึ่งเราอยากจะใช้หลักคิดเดิมเหมือนกัน กระจายไปให้ทุกคนได้ร่วมด้วยช่วยกัน ทุกคนไม่เยอะหรอก คนละสิบบาทที่ทุกคนซื้อน้ำหวานสักขวดยังไม่ได้เลย ลองลงมากองรวมกัน มันช่วยชีวิตคนได้จริงๆ แต่เดี๋ยวช่องทางไหนอะไรยังไงเราจะบอกอีกที”

ตอนนี้มีมูลนิธิแล้ว ต้องบาลานซ์เวลากับการเล่นคอนเสิร์ตยังไง

“โดยธรรมชาติเราก็อยากจะบาลานซ์สมดุลมันให้ดีขึ้น เพราะว่าเราก็เริ่มอายุเยอะแล้ว บ้างที่เล่นคอนเสริตทุกวันนี้ต้องยอมรับก็หอบเหมือนกันนะ ทั้งที่เราก็ออกกำลังกายอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอก เราพยายามที่จะสมดุลชีวิตให้มันมีความสุขหลายๆด้าน”

เพื่อนๆในวงโอเคใช่ไหม

“โอเคมาก ทุกคนโอเคมาก ตั้งแต่ออกไปสองเดือนครั้งที่แล้ว ทุกคนโอเคมาก ทุกคนมีความสุข หลังจากคอนเสิตร์ใหญ่ที่ผ่านมา ทุกคนก็แฮปปี้มาก ได้เห็นแฟนมารวมกันทั้งสองรอบเต็มสนาม”

ตัดผมแล้วดูหนุ่มขึ้น

“จริงๆแล้วผมร่วงครับ ใครผมยาวจะรู้ ผมยาวสระที่นึงร่วงเป็นกำมือเลยครับ แล้วเรารู้สึกว่าเราดูในทีวีหรือดูในรูปที่แฟนคลับส่งมาทำไมเราดูสูงวัยจัง เราก็เลยคิดว่าลองตัดผมดูไม่รู้ว่ามันจะช่วยหรือเปล่าก็ลองดู ไม่รู้ลดหรือเพิ่มอายุ ก็หลายๆคนบอกว่ามันดีนะ แต่ไม่รู้พูดไปงั้นหรือเปล่า ( ยิ้ม )

ทะลุ 1 พันล้านบาท ยอดบริจาคโครงการ “ก้าวคนละก้าว”

"ตูน บอดี้สแลม" บุคคลดีเด่นแห่งปี 2560

5 เรื่องสุดเจ๋ง ของ“ตูน บอดี้สแลม” กับ “ก้าวคนละก้าว”

"ก้าวคนละก้าว" คำค้นหายอดฮิตข่าวจากกูเกิล ปี 2017

ประมูลรองเท้า “ตูน บอดี้สแลม” ยอดพุ่งทะลุล้าน

ศิลปิน-ดารา ร่วมวิ่งสร้างสีสัน “ก้าวคนละก้าว” คาดวันนี้เข้า จ.ลำปาง

 

 

TOP ข่าวบันเทิง
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ