จิตแพทย์เด็กชี้ "เด็กติดเกม" มีโอกาสเลียนแบบวิธีก่ออาชญากรรม !!
ขณะนี้ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปเด็กชายคนหนึ่ง ที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว แสดงท่าทีและคำพูดไม่เหมาะสมต่อครอบครัวอย่างมากหลังจากที่มีการเล่นเกมออนไลน์ ซึ่งมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากเกรงว่าผู้ปกครองจะถูกทำร้าย
จากการตรวจสอบ พบว่า เด็กชายคนดังกล่าวยังเป็นผู้เยาว์ และล่าสุดเจ้าตัว ได้ออกมาไลน์เฟซบุ๊ก ว่าไม่ได้ลงมือทำร้ายคนในครอบครัว พร้อมทั้ง ได้กราบขอโทษทางครอบครัวที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมแล้ว จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก
และยอมรับว่าตัวเองมีอาการทางจิต แต่ได้มีการหาหมอและกินอย่าตลอด อย่างไรก็ตาม ขอร้องให้ลบคลิปที่เป็นต้นเรื่องออกจากโลกออนไลน์
ด้าน เพจดังอย่าง Drama-addict ออกมาเตือนว่า ไม่ควรแชร์คลิปหรือส่งต่อคลิป เพราะเด็กชายในคลิปยังเป็นผู้เยาวน์ พร้อมกับวิเคราะห์ว่า น้องน่าจะป่วย
ตอนนี้มีการแชร์คลิปของเด็กติดเกมที่อาการหนัก และมีพฤติกรรมก้าวร้าวกับคนในครอบครัวแบบหนักมาก คนแชร์เป็นพันละ แนะนำพ่อแม่พี่น้องว่า คนที่แชร์ไปแล้ว ช่วยๆกันลบด้วย เพราะน้องเขายังเป็นผู้เยาว์
และน้องเขาน่าจะป่วยอะไรซักอย่าง ซึ่งเขาต้องการความช่วยเหลือ ถ้าเพื่อนๆ ของน้องเขาคนไหนรู้จักบ้านเขา รบกวนช่วยโทรไปแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง oscc (ศูนย์ช่วยเหลือสังคม) อะไรทำนองนี้ให้เข้าไปช่วยเหลือบ้านนั้นด้วยนะครับ
นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อดีตอธิบดีกรมสุขภาพจิต เคยออกมาพูดถึงกรณีการเล่นเกมของเด็กไว้ด้วยว่า ในเด็กอายุน้อยกว่า 3 ปี ไม่แนะนำให้เล่นเกมคอมพิวเตอร์ อายุ 3-6 ปี เล่นได้เฉพาะเกมส่งเสริมการศึกษา โดยมีผู้ปกครองควบคุม
อายุ 6 ขวบขึ้นไป เล่นเกมอื่นๆ ที่ถูกกำหนดไว้สำหรับเด็กแต่ละวัย หลีกเลี่ยงเกมที่มีความรุนแรง
อายุ 13 ปีขึ้นไป หลีกเลี่ยงเกมที่มีเนื้อหาความรุนแรงมากเกินไป เช่น ฉากต่อสู้นองเลือด และห้ามเล่นเกมที่มีการวางแผนฆ่าศัตรู เพศสัมพันธ์ คำหยาบคาย การพนัน และยาเสพติด
วันธรรมดา สามารถเล่นได้ น้อยกว่า 1 ชั่วโมงต่อวัน ขณะที่วันหยุด น้อยกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน ไม่ควรเล่นต่อเนื่องนานเกินกว่า 1 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ขอแนะนำให้เด็กและวัยรุ่นฉลาดเล่นและรู้วินัย หลีกเลี่ยงเกมออนไลน์ที่มีลักษณะทีมผู้เล่นหลายคน ไม่ควรเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ไม่นัดพบกับคนแปลกหน้าที่รู้จักผ่านเกมออนไลน์
สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครอง ขอแนะนำให้ ติดตามพฤติกรรมการใช้เงินของลูก สถานที่ร้านเกมแถวบ้าน โรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ ไม่อนุญาตให้เล่นเกมในห้องส่วนตัว ควรตั้งกติการ่วมกัน ไม่ควรเล่นเกมก่อนทำการบ้าน หรือ ก่อนเข้านอน
วิธีรับมือเด็กติดเกม ตามหลัก “3 ต้อง 3 ไม่” จาก กรมสุขภาพจิต
