‘เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น’ โต้กลับไม่เคยทิ้งพ่อ แต่หนูโกรธป้าที่มาทำลายหนู
“เจนนี่” วอนอย่าถล่มพ่อ เผยไม่ถอนแจ้งความ ถ้าป้าไม่ขอโทษ
จากกรณี นางสาวรัชนก สุวรรณเกตุ หรือ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น วัย 25 ปี นักร้องสาว เจ้าของบทเพลง “เลิกคุยทั้งอำเภอ” ได้มอบให้ทนายความ เข้าแจ้งความดำเนินคดี กับ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก 3 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นญาติฝ่ายพ่อ หลังทั้งหมดโพสต์ข้อความกล่าวหาว่า นางสาวรัชนก เนรคุณพ่อ จนเกิดเป็นกระแสสังคมทำให้เธอได้รับความเสียหาย ขณะที่ ผู้เป็นพ่อขอโทษบุตรสาวอ้างว่าที่พีสาวทำไปเพราะโกรธแทน โดยต่อจากนี้ จะขออยู่เฉยๆ ไม่ขอเงินบุตรสาวอีก โดยวิงวอนให้ถอนแจ้งความ เพื่อยุติเรื่อง ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด นายนิติธร แก้วโต หรือ ทนายเจมส์ พร้อม นางสาวสุภาพร สุวรรณเกตุ //นางสาวทิพย์วดี คุณกาย // และ นางสาวธัญญลักษณ์ คุณกาย เดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรปราการ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา หลังได้รับหมายเรียก เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยมี นายอภินันท์ สุวรรณเกตุ พ่อของนักร้องคนดัง ร่วมเดินทางมาด้วย หลัง ทั้ง 3 คน ให้ปากคำ และ ยอมรับว่า เป็นผู้โพสต์ข้อความ พนักงานสอบสวน จึงแจ้งข้อหา หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ก่อนปล่อยตัว อนุญาตให้กลับตามขั้นตอน
โดยนางสาวสุภาพร เปิดเผยว่า สาเหตุที่โพสต์ข้อความ มาจากความรู้สึกน้อยใจ รวมทั้ง อารมณ์โกรธหลังเห็นหลานสาว ใช้ถ้อยคำรุนแรงกับผู้เป็นพ่อ ทั้งที่พ่อโทรไปขอเบิกเงินค่าแต่งเพลง โดยยอมรับว่าผิดที่โพสต์ข้อความ แต่ในส่วนที่หลานสาวทำพฤติกรรมแบบนี้กับพ่อ
นางสุภางสุภาพร เปิดเผยอีกว่จากนี้ จะไม่ขอยุงเกี่ยวอีก ต่างคน ต่างอยู่ จนถึงขณะนี้ ก็ไม่รู้สึกโกรธหลานสาว แต่อยากให้คิดได้ว่า พ่อ ก็คือ พ่อ
ด้านพ่อของนักร้องคนดังกล่าวว่า หลังได้รับหมายเรียก จึงโทรศัพท์ไปถามบุตรสาวว่า ทำไมถึงยังไม่ถอนแจ้งความ ทั้งที่เคยพูดผ่านสื่อว่า หาก พ่อ และ ป้า ออกมาขอโทษ ก็จะถอนแจ้งความ จึงรู้สึกดีใจแต่จู่ๆก็มีหมายเรียก โดยระหว่างที่บุตรสาวรับโทรศัพท์ แต่ยังไม่ได้พูดคุย ก็มีเสียงเล็ดลอดออกมาจากโทรศัพท์ของบุตรสาวจับใจความได้ว่า "ไม่ต้องถอน" จึงยังไมได้พูดคุยกัน
ล่าสุด นายสุวิทย์ ช่วยชูใจ ทนายความของนักร้องคนดัง แจ้งว่าขณะนี้ เจนนี่ได้มอบหมายให้ตนเองไปดำเนินการถอนแจ้งความแล้ว แต่ติดภารกิจว่าคดีความอยู่ที่ต่างจังหวัด ยังไม่สามารถดำเนินการถอนแจ้งความได้ หลังเสร็จสิ้นก็จะเดินทางมาที่ สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรปราการ เพื่อดำเนินการถอนแจ้งความตามขั้นตอนต่อไป
